วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ประวัติ ลิโอเนล เมสซี่

ประวัติ ลิโอเนล เมสซี่





ข้อมูลส่วนตัว ชื่อเต็ม เลียวเนล อันเดรส เมสซี

เกิด 24 มิถุนายน ค.ศ. 1987 (27 ปี) เกิดที่ โรซารีโอ อาร์เจนตินา
สูง 1.70 เมตร (6 ฟุต)[1]
ตำแหน่ง  กองหน้า / ปีก
ข้อมูลสโมสร สโมสรปัจจุบัน บาร์เซโลนา หมายเลข 10
ชุดเยาวชน 1995–2000 นิ วเวลส์โอลด์บอยส์
2000–2004  บาร์เซโลนา

ปี ทีม ลงเล่น† (ประตู)†
2003–2004 บาร์เซโลนา ชุด C 8 (5)
2004–2005 บาร์เซโลนา ชุด B 22 (6)
2004– บาร์เซโลนา 286 (253)

ทีมชาติ‡
2005 อาร์เจนตินา 20 ปี 7 (6)
2008 อาร์เจนตินา 23 ปี 5 (2)
2005– อาร์เจนตินา 95 (44)



เมสซีเกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 1987 ที่โรงพยาบาลอีตาเลียโนการีบัลดี ในโรซารีโอ ซานตาเฟ เป็นบุตรของคอร์เค โอราเซียว เมสซี (เกิดปี ค.ศ. 1958) เป็นคนงานโรงงาน และเซเลีย มารีอา กุกซิตตีนี คนทำความสะอาดนอกเวลา ครอบครัวทางฝั่งพ่อมาจากเมืองในประเทศอิตาลี คือเมืองอันโกนา โดยบรรพบุรุษของเขา อันเจโล เมสซี อพยพมาอยู่อาร์เจนตินา ในปี ค.ศ. 1883 เขามีพี่ชาย 2 คนชื่อรอดรีโกและมาเตียส และมีพี่สาวชื่อ มารีอา ซอล เมื่อเขาอายุ 5 ปี ได้เริ่มเล่นฟุตบอลให้กับกรันโดลี สโมสรท้องถิ่น ที่พ่อเขาคอร์เค เป็นโค้ช ในปี ค.ศ. 1998 เมสซีย้ายไปอยู่สโมสรกีฬานิวเวลส์โอลด์บอยส์ ซึ่งอยู่ในเมืองบ้านเกิดเขาโรซารีโอ พออายุ 11 ปี เขาอยู่ในภาวะขาดฮอร์โมนการเจริญเติบโต สโมสรอัตเลตีโกรีเบอร์ปลาเต สโมสรในปรีเมราดีวีซีออนอาร์เจนตินา ได้แสดงความสนใจในเมสซี แต่ก็ไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เขา เป็นเงิน 900 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ต่อเดือน การ์เลส ราซัก ผู้บริหารด้านกีฬาของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา ได้รับรู้ความสามารถของเมสซี ผ่านญาติของของเมสซีในเมืองเลย์ดา แคว้นคาเทโลเนีย และเมสซีพร้อมพ่อของเขาก็สามารถที่จะเตรียมการทดสอบได้ บาร์เซโลนาเซ็นสัญญาเขาหลังจากเห็นเขาเล่น โดยเสนอจ่ายค่าพยาบาลให้ถ้าเขายินยอมที่จะย้ายมาอยู่สเปน ครอบครัวของเขาย้ายมายังยุโรปและเขาเริ่มเล่นสโมสรเยาวชนของทีม เขามีลูกพี่ลูกน้องในวงการฟุตบอล คือ มักซี เบียนกุชชี และเอมานวยล์ เบียนกุชชี



ประวัติของไอสไตน์

ประวัติของไอสไตน์




อัลเบิร์ต ไอน์สไตล์ (เยอรมัน: Albert Einstein - อัลแบร์ท ไอน์ชไตน์) (14 มีนาคม พ.ศ. 2410 - 18 เมษายน พ.ศ. 2498) เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎี ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2428

วัยเด็กคนดังของโลก : อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์"ผู้เกลียดการเรียนหนังสือ





ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวที่มีสัญชาติสวิสและอเมริกัน (ตามลำดับ) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เขาเป็นผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม สถิติกลศาสตร์ และจักรวาลวิทยา เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ. 2464 จากการอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก



และจาก การทำประโยชน์แก่ฟิสิกส์ทฤษฎี" หลังจากที่ไอน์สไตน์ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ในปี พ.ศ. 2458 เขาก็กลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยธรรมดานักสำหรับนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง ในปีต่อ ๆ มา



ชื่อเสียงของเขาได้ขยายออกไปมากกว่านักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ
ในประวัติศาสตร์ ไอน์สไตน์ ได้กลายมาเป็นแบบอย่างของความฉลาดหรืออัจฉริยะ ความนิยมในตัวของเขาทำให้มีการใช้ชื่อไอน์สไตน์ในการโฆษณา หรือแม้แต่การจดทะเบียนชื่อ "อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์" ให้เป็นเครื่องหมายการค้า ตัวไอน์สไตน์เองมีความระลึกถึงผลกระทบทางสังคม






ซึ่งมีผลมาจากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้ง ในฐานะที่เขาได้เป็นปูชนียบุคคลแห่งความบรรลุทางปัญญา เขายังคงถูกยกย่องให้เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อวิทยาศาสตร์ที่สุดในยุคปัจจุบัน ทุกการสร้างสรรค์ของเขายังคงเป็นที่เคารพนับถือ ทั้งในความเชื่อในความสง่า ความงาม และความรู้แจ้งเห็นจริงในจักรวาล (คือแหล่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจในวิทยาศาสตร์ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่) เป็นสูงสุด ความชาญฉลาดเชิงโครงสร้างของเขาแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบของจักรวาล ซึ่งงานเหล่านี้ถูกนำเสนอผ่านผลงานและหลักปรัชญาของเขา ในทุกวันนี้ ไอน์สไตน์ยังคงเป็นที่รู้จักดีในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังที่สุด ทั้งในวงการวิทยาศาสตร์และนอกวงการ ไอน์สไตน์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2498 ด้วยโรคประสาท




10 ประโยคคำคมที่ดีที่สุดของไอน์สไตน์



  • วิทยาศาสตร์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ถ้าไม่ได้ทำเพื่อเลี้ยงชีพ
  • คนที่ไม่เคยทำผิดคือคนที่ไม่พยายามทำอะไรใหม่เลย (อึ้ยย โดน)
  • คนฉลาดแก้ปัญหา คนอัจริยะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา
  • สิ่งที่เข้าใจยากที่สุดในโลก คือภาษีเงินได้ (นั้นสิคืออะไรอ่ะ)
  • ผมแน่ใจว่าพระเจ้าไม่เล่นลูกเต๋า
  • ความเป็นจริงเป็นภาพลวงตาแม้ว่ามันจะคงอยู่นาน
  • ผมไม่เคยคิดถึงอนาคต เพราะมันจะมาในไม่ช้า
  • สิ่งเดียวที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ของผม คือการศึกษาของผม
  • สองสิ่งที่ไม่มีสิ้นสุดคือจักรวาลและความโง่เขลาของมนุษย์
  • ผมไม่รู้ว่าอาวุธในสงครามโลกครั้งที่3จะเป็นอะไร แต่สงครามโลกครั้งที่ 4 อาวุธจะเป็นไม้และก้อนหิน
  • คนที่อยากได้ผลลัพธ์ใหม่แต่ทำสิ่งเดิมๆ คือคนวิกลจริต ( อ่าาาถูก)
  • ถ้าคุณคิดไม่ออกเกี่ยวกับสิ่งที่คุณลืม ให้คุณลืมมันไปเลย อีกสักพักคุณก้อจะคิดมันออกเอง (ใช่ๆเป็นบ่อยเลย)




ประวัติ ซีดาน

ประวัติ ซีดาน



แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยมาแล้วหลายปีแต่ ซีดานยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของแฟนบอลหลายๆ ท่าน อย่างไม่มีวันจางหาย ภาพการเลี้ยงบอล การผ่านบอลที่ปานเทพ การสั่งการในฐานะกัปตันทีม การ ล่อหลอกบรรดาผู้เล่นฝั่งตรงข้าม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความทรงจำที่ดีกับชายคนนี้ "ซีเนอร์ดีน ซีดาน"



             ซีเนดีน ยาซิด ซีดาน (อาหรับ: زين الدين زيدان‎) (เกิด 23 มิถุนายน พ.ศ. 2515) ชื่อเล่นว่า "ซีซู" (Zizou)

  เป็นนักฟุตบอลมุสลิมชาวฝรั่งเศส ซีดานเกิดที่เมืองมาร์เซย์ ประเทศฝรั่งเศส ในครอบครัวชาวแอลจีเรียอพยพ เริ่มค้าแข้งขณะอายุ 17 ปี กับ สโมสรอาแอสกาน ดิวิชัน 1 ของฝรั่งเศสจากนั้นเขาก็มาประสบความสำเร็จกับสโมสรบอร์โด และเขาถูกคัดเลือกให้เป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรป ได้เข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งแรกและเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก 1998 ซีดานได้นำทีมเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก ซีดานได้ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ พร้อมกับเกิดคดี ซีซู โหม่งนักเตะกองหลังของอิตาลี มาร์โก มาเตรัซซี เข้า ภายหลังจบการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2006 ซีดานได้เล่นให้กับทีมยูเวนตุส ในปี 2539-2544 และเรอัลมาดริดในปี 2544-2549 อาจถือได้ว่าซีดานเป็นมิดฟีลด์จอมทัพที่ดีที่สุดของโลก ครบเครื่องทุกอย่างในนักเตะคนเดียว ทั้งการผ่านบอลแม่นยำ เติมเกมรุก กำหนดจังหวะเกม เป็นศูนย์กลางผสมผสานของทีมได้ลงตัว



  

 นักฟุตบอลที่เล่นฟุตบอลได้นุ่มนวล ไหลลื่น ดูเป็นธรรมชาติ มากที่สุดคงจะหาใครเปรียบเทียบยาก
สำหรับ ซิซู ซีเนอร์ดีน ซีดาน อดีตยอดเพลย์เมกเกอร์ที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกคนก่อน

    คงเป็นเรื่องที่น่าเศร้า สำหรับใครที่เกิดมาไม่ทันดูชายผู้นี้โลดแล่นอยู่ในสนาม ตลอดเวลาที่ซีดาน
โลดแล่นอยู่อยู่ในถนนสายนี้ ซีดานนับเป็นผู้เล่นที่มักจะทำให้คู่แข่งขันฝั่งตรงข้าม ปวดเศียรเวียนเกล้า
อยู่อย่างเสมอ





v

สมัยหนุ่มๆ กับทีม cannes ในลีกบ้านเกิด




v
ย้ายมาเล่นให้บอร์กโดซ์ทำให้แกร่งขึ้นเยอะ


 หลังจากเล่นให้ทีมชุดใหญ่ได้เพียงไม่กี่ฤดูกาลก็ย้ายไปเล่นให้กับทีมที่อาจพอคุ้นหูขึ้นมาบ้างอย่าง
บอร์กโดซ์ในลีกฝรั่งเศสที่เดิม

    ในปี 1996 ซีเนอร์ดีน ซีดาน ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อเขาตัดสินใจย้ายไปเล่นให้
กับทีมยักษ์ใหญ่จากอิตาลีในขณะนั้นและทำผลงานได้เยี่ยมยอดจนขึ้นมาเป็นมิดฟิลด์จอมอัจฉริยะ
ระดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว




v
ยอดเยี่ยมและอัจฉริยะสำหรับผู้เล่นหมายเลข 21 คนนี้
    หลังจากนั้นในปี 2001 ซีดานที่อยู่กับสโมสรยูเวนตุสมาถึง 5 ฤดูกาล ก็ตัดสินใจย้ายซบราชันชุด
ขาวเรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวที่แพงที่สุดในโลก ประมาณ 46 ล้านปอนด์ เป็นสถิติต่อมาหลายยุคหลาย
สมัยเลยทีเดียว




v
โยกซบราชันชุดขาวพร้อมเบอร์ 5 ระดับตำนาน
ในนามทีมชาติผรั่งเศส ซีเนอร์ดีน ซีดาน ที่ได้รับบทบาทในการเป็นกัปตันทีมในยุคต่อมา ได้สร้าง
ผลงานให้กับทีมชาติอย่างมากมาย ที่สำคัญที่สุดดูจะเป็น มิดฟิลด์คนสำคัญที่ช่วยให้ทีมชาติตราไก่
สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ฟรองซ์ 98 ที่ประเทศบ้านเกิดเขาเป็นเ้จ้าภาพ ด้วยการช่วยยิง 2
ประตูในนัดชิงชนะเลิศ คว่ำบราซิลไปในที่สุด และในปี 1998 ซีดานยังได้รางวัลบัลลงดอร์สุดยอด
นักเตะของยุโรปอีกด้วย

 v
ซีเนอร์ดีน ซีดานคว้ารางวัลบัลลงดอร์ 1998


v
กัปตันทีมผู้มีเทคนิคอันยอดเยี่ยม

 อย่างไรก็ตามทีมชาติฝรั่งเศสของซีดาน ต้องได้เพียงแค่รองแชมป์ในปี 2006 เมื่อนัดชิงชนะเลิศ
ซีดานใช้ศรีษะโขกที่หน้าอกของมาโก มาเตรัซซี่ของอิตาลี ทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป
และอิตาลีก็คว้าแชมป์โลกในปีนั้น



v


แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยมาแล้วหลายปีแต่ ซีดานยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของแฟนบอลหลายๆ ท่าน
อย่างไม่มีวันจางหาย ภาพการเลี้ยงบอล การผ่านบอลที่ปานเทพ การสั่งการในฐานะกัปตันทีม การ
ล่อหลอกบรรดาผู้เล่นฝั่งตรงข้าม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความทรงจำที่ดีกับชายคนนี้ "ซีเนอร์ดีน ซีดาน"




เกียรติประวัติ ของซีดาน

 บอร์กโดซ์ ยูฟ่า คัพ (รองแชมป์) : 1995/1996
แชมป์ลีกเอิง : 1995/1996
อินเตอร์ โตโต้ คัพ : 1995
ยูเวนตุส เซเรีย อา : 1996/1997 : 1997/1998
ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ : 1996
อิตาเลีย ซูเปอร์ คัพ : 1997
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รองแชมป์) : 1996/1997, 1997/1998
เรอัล มาดริด ลา ลีกา : 2002/2003
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : 2001/2002
อินเตอร์เนชัลแนล คัพ : 2002
ยูโรเปี้ยนส์ ซูเปอร์ คัพ : 2002
สแปนิช ซูเปอร์ คัพ : 2001, 2003
ทีมชาติฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก : 1998 (แชมป์), 2006 (รองแชมป์)
ฟุตบอลยูโร : 2000 (แชมป์)

รางวัลส่วนตัว
 มิดฟิลด์ยอดเยี่ยม, ฟุตบอลสโมสรโลก : 1997/1998
นักฟุตบอลแห่งปี : 1998
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก : 1998, 2000, 2003
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก อันดับ 2 : 2006
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก อันดับ 3 : 1997, 2002
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของยุโรป (บัลลงดอร์) : 1998
ผู้เล่นทรงคุณค่า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : 2001/2002
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของยุโรปในช่วง 50 ปี, ยูฟ่า โกลเด้น จูบิลี่ โพล : 2004
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์, ฟุตบอลโลก : 2006
ติดทีมยอดเยี่ยมของโลก : 2005, 2006 Onze d'Or: 1998, 2000, 2001
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์, ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป : 2000 FIFA All-Star Team: 1998, 2006 UEFA BEST XI: 2001, 2002, 2003 Chevalier (Knight) of the Légion d'honneur: since 1998[50]